วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ดูโฆษณาสมัยนี้ มันบิ้วอารมณ์กันน่าดูเลย

ผมว่ามันเป็นโฆษณาที่ดูแล้วเดาไม่ออกเลยว่า พยายามจะสื่อถึงสินค้าอะไร แต่เนื้อเรื่องจับใจและได้ข้อคิดมากมาย โดยเฉพาะวลีเด็ดที่ว่า "ควางามไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยตาเสมอไป บางครั้งการหลับตาก็ทำให้เราได้เห็นความสวยงาม" ลองชมให้จบแล้วจะอึ้งว่ามันโฆษณาสินค้าแบบนี้กันได้ด้วย เจ๋งมาก

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โฆษณามือถือแบบเสียวๆ

โฆษณานี้ ยอมรับว่าเสียวดีมาก ถือว่า Creative Idea เจ๋งดีนะครับ ลองไปชมกันดู

HTC Advertising

โฆษณาสวยๆ จาก HTC เห็็นว่าน่าสนใจเลยเก็บมาฝากให้ดูกันนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เล่นกันแรง.. โฆษณา BB อัด Apple



เห็นโฆษณานี้แล้ว ผม ชอบในเรื่องของการสื่อความมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ลูก Apple โดนยิง แบบผ่าทะลุกลาง โดยไม่แตกกระจาย นั่นหมายความว่า ลูกกระสุน นั้นวิ่งเร็วและแรงมาก  ครั้งแรกผมมองลูกกระสุนไม่ทัน แต่พอทะลุ Apple ออกมาแล้ว จะเห็นภาพซูมเข้าไปใกล้ๆ จึงเห็นได้ชัดว่า เป็นลูกเบอร์รี่ สีดำ (Black Berry)  อันนี้ถือเป็นตลกร้ายทีเดียว เพราะว่า Brand ของสินค้าทั้งสองนี้ มาจากชื่อผลไม้และในงานโฆษณาก็สามารถใช้ผลไม้มาสื่อแทนได้อย่างแยบยล จนคนดูอดจะหัวเราะตามไม่ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะฉากที่ลูกเบอร์รี่สีดำ (Black Berry)ทะลวงผ่าน ลูก Apple จนเกิดแผลฉีกกระจาย

ที่เด็ดสุดคือประโยคจบของงานโฆษณาชิ้นนี้ ที่ว่า Nothing can touch it  ไม่มีสิ่งใดสามารถจับมันได้ทัน    เพราะตอนที่คำว่า Nothing can touch it  ปรากฏขึ้นในฉากโฆษณานั้น ลูกเบอร์รี่สีดำก็วิ่งหายไปก่อนหน้านั้นเสียแล้ว เห็นไหมครับว่าเขาฉลาดมากในการที่จะสื่อให้ผู้ชมคิดเอาด้วยตัวเองว่า มันเร็วจริงๆ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของงานโฆษณาเลยทีเดียว

ผมลองนั่งคิดเล่นๆ ว่า  ถ้าชื่อแบรนด์ทั้งสองไม่เผอิญไปสอดคล้องกับชื่อผลไม้ พอดี งานโฆษณาอาจออกมาแนว ยิงทะลุทุเรียน มังคุด สาลี่ไปตามเรื่อง ซึ่งคนดูก็คงไม่รู้สึกสะใจอะไร  พวก Creative งานโฆษณา นี้ก็เก่งเข้าใจคิดนะครับ ไม่รู้ว่า Apple จะแก้เกมส์ออกมาในแนวไหน อาจมีโฆษณาทุบลูกเบอร์รี่ หรือเอามาปั่นทำน้ำเบอร์รี่ หรือว่าอย่างไรผมก็ยังนึกไม่ออกเลยแฮะ.. ..ใครมีไอเดียดีๆ ลองมา Comment แชร์ไอเดียกันดูนะครับ

@ajbomb
18-10-2009

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Sales Promotion...สไตล์ ยิ้มบาร์เบอร์



ผมเป็นลูกค้าประจำ ร้านยิ้ม บาร์เบอร์ ถ้าตามหลักการตลาดแล้ว ร้านนี้ชื่อเป็นมงคลดีแท้ "ยิ้ม" แสดงว่าเข้าไปแล้วยิ้มแน่นอน (ไม่รู้ว่าเจ้าของร้าน มันจะยิ้ม หรือลูกค้าจะยิ้มนะ) แต่แล้ววันหนึ่งผมก็ได้เข้าไปใช้บริการ เปิดซิงกะร้านนี้ล่ะ สรุปได้ว่า ลูกค้ายิ้ม เพราะร้านนี้โปรโมชั่น หรือการส่งเสริมการขาย แคมเปญ โดนใจเหลือเกิน

ตัดผมชาย = 40 บาท แถมฟรี สระผม ให้ด้วย

อืม... ในทางการตลาดถือว่าแรงใช้ได้ เพราะร้านอื่นๆ (คู่แข่ง) ต้องเสียค่าสระต่างหาก บางร้านค่าสระ พี่ท่านแพงกว่าค่าตัดอีก ส่วนร้านนี้ฟรี ถือว่าเข้าใจคิด เพราะการสระผม ต้นทุนก็มีแค่ค่าน้ำ กะค่าแชมพูนิดๆ หน่อยๆ แถมให้นี่ประทับใจขึ้นอีกแยะ ในทางการตลาดถือว่าอันนี้เป็นการแถมที่เหมาะสม ถ้า ตัดผมชายแล้วแถมกิฟท์ติดผม อันนี้ไม่ค่อยเข้าท่า ดังนั้นการจะแถมสินค้าหรือบริการต้องดูหน่อย ให้มันสอดคล้องกับตัวบริการหลักด้วยนะครับ อันนี้ฝากไว้

อันที่สองที่ประทับใจคือ การตัดผมได้ดี และรวดเร็ว (ร้านตัดผมส่วนใหญ่ มักจะพิรี้พิไร ทราบมาว่า การตัดผมจริงๆ ตัดแป๊ปเดียว ต้องทำให้ช้าจะได้ให้ลูกค้ารู้สึกว่าประณีต) แต่เจ๊ยิ้ม แกมาแนว ตัดดีและไว อืม.. อันนี้ผมชอบ เพราะเวลาผมน้อย แกจับกลุ่มลูกค้าได้ชัดเจนดี ประเภท รีบๆ แต่อยากได้ดีๆ มานี่เลย

อันที่สาม เจ๊แกต่อรองราคาได้ วันนี้ผมไปเสริมหล่อที่ร้านแก และขอใช้บริการย้อมผมด้วย จากปกติ ตัดผม และย้อม 250 แกลดให้ผมเหลือ 180 ผมดันบ้าต่ออีกเหลือ 160 แกว่าโอเค เออ นะ...เพิ่งเคยเห็น ร้านตัดผมต่อราคาได้ด้วยวุ้ย ผมก็ลองต่อซี้ซั้วไปงั้น แกก็กล้าซี้ซั้วลดให้ผมด้วย แต่สิ่งทีประทับใจในแง่การตลาด แกบอกว่า อันนี้ลดให้อาจารย์บอม เป็นพิเศษเลยนะ ฐานะลูกค้าประจำ (มา 2 ครั้งเอง กลายเป็นประจำไปล่ะ) เจ๊ยิ้มนี่ไม่เบาเลย เป็นการตลาดแบบสร้างบุญคุณนะเนี่ย ลดให้แล้วย้ำด้วยว่า พิเศษเฉพาะเรา ถ้าใครเป็นลูกค้าได้รับบริการแบบนี้ไม่ปลื้มทนไหวเหรอ

อันสุดท้าย นี่เจ๋งสุด ตัดผม ย้อมผมเสร็จ ให้ตังแกไป 200 นึกว่าจะทอนมา 40 เปล่า แกทอนมา 50 ผมงงเลยทีนี้ เจ๊ยิ้มแกจะมาไม้ไหน แกบอกว่าลดให้พิเศษอีก 10 บาท โอวว แม่เจ้า อะไรจะโปรโมชั่นกันจนถึงนาทีสุดท้ายขนาดนี้ อันนี้หลักการตลาดคือทำอะไรที่มันเหนือความคาดหมายลูกค้า (อย่างผม) แบบสุดๆ นักการตลาดที่ดีจะต้องมีมุขเด็ดๆ แบบนี้ คือ ลูกค้า surprise จนนาทีสุดท้าย

ผมหยิบเรื่องนี้มาเล่าเพื่อจะบอกว่า แค่ร้านตัดผม เล็กๆ ร้านหนึ่งในชนบท แต่เขาสามารถบริหารจัดการ และใช้กลยุทธ์ต่างๆ ทางการตลาด ไม่ว่าเค้าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพื่อให้ร้านเค้ามีความโดดเด่นกว่าร้านอื่นๆ และยังได้การโฆษณาฟรีๆ จากผมอีกด้วย ลองอ่านทบทวนแล้วจะเห็นว่า เราสามารถเอาไรดีๆ ไปจากเค้าได้อีกมาทีเดียว

อาจารย์บอม
20-07-09